ฝ้า ผิวขาวใส
คลินิกดูแลเรื่องความงาม ผิวพรรณ รักษาฝ้า หน้าหมองคล้ำ หน้าบางจากการทำเลเซอร์ หน้าแดง แพ้ครีม ผดผื่น ผิวแห้ง ผิวมัน
ปัญหาฝ้า กระ ริ้วรอยและจุดด่างดำหมดไป ง่าย ๆ เพียงแค่ดูแลใบหน้าอย่างถูกวิธี เพื่อผิวที่กระจ่างใสแลดูอ่อนกว่าวัยโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ
✔ รักษาฝ้า
✔ รักษากระ
✔ รักษาจุดด่างดำ
✔ รักษารอยคล้ำจากแดด
✔ ผิวขาวใสมีออร่าตลอดวัน
✔ กระชับรูขุมขน
✔ ผิวเนียนเรียบ
คุณกำลังประสบปัญหาเหล่านี้หรือไม่
✔ ฝ้าขึ้นเต็มหน้าหลังออกแดด
✔ รู้สึกขาดความมั่นใจ เสียบุคลิกภาพ มีผลต่อการงาน
✔ รักษามาหลายที่ก็ไม่ดีขึ้นเสียที จนสูญเสียโอกาสดีๆในชีวิตไปมากมาย
✔ เสียเงินไปกับคอร์สการรักษาที่สูงลิบ แต่ไม่ได้ผล
✔ หน้าบาง เกิดแผลเป็นและจุดด่างดำง่ายหลังทำเลเซอร์
ทำไมควรปรึกษาเรา
✔ รักษาจริง ไม่เลี้ยงไข้
✔ ได้รับการวินิจฉัยจากแพทย์เพื่อหาสาเหตุต้นตอการเกิดฝ้า และแนะนำวิธีดูแลใบหน้าที่ถูกต้อง
✔ ไม่มีค่าใช้จ่ายในการให้คำปรึกษาเบื้องต้น
✔ หากคุณตัดสินใจพร้อมรับการรักษา ถึงจะมีค่าใช้จ่ายเรื่องยา
✔ ค่ารักษาไม่บานปลาย สามารถเลือกระยะเวลาการรับยาเป็นรายสัปดาห์ 2สัปดาห์ หรือ 1เดือน
✔ รักษาเป็นรายบุคคล จ่ายยาตามพื้นฐานอาการ คุณจึงมั่นใจได้ว่าการรักษานั้นเหมาะกับคุณจริงๆ
✔ เน้นคุณภาพและความปลอดภัยมาก่อนสิ่งอื่นใด
✔ คนไข้ส่วนมากมาจากการบอกต่อๆกัน
“บุคลิกภาพที่ดีและใบหน้าสวยสดงดงาม จะทำให้คุณได้รับโอกาสดีๆอย่างคาดไม่ถึงเลยทีเดียว”
คำตอบเหล่านี้จะทำให้คุณมั่นใจ และปฏิบัติตัวได้อย่างปลอดภัย
”การทาคอลลาเจนช่วยอะไรกับผิวหน้าบ้างคะ?”
คอลลาเจนคืออะไรและทำไมจึงสำคัญต่อผิวหน้า
คอลลาเจนเป็นเนื้อเยื่อเกี่ยวพัน (Connective tissue) ที่พบได้ถึง 80% ในชั้นผิว โดยคอลลาเจนเป็นโปรตีนที่จับตัวกัน เป็นโครงข่ายอยู่ใต้ชั้นผิว จึงช่วยรักษาโครงสร้างของชั้นผิว และทำให้ผิวกระชับเต่งตึง การเสื่อมสภาพของผิวตามธรรมชาติ และการได้รับรังสียูวี ซึ่งก่อให้เกิดการทำลายของเส้นใยคอลลาเจน ทำให้ผิวหย่อนคล้อย และขาดความกระชับ เกิดรอยเหี่ยวย่น
ดังนั้น สารประกอบที่มีฤทธิ์สำคัญดัง เช่น กรดเออร์โซลิก (ursolic acid) สารสกัดจากแป๊ะก๊วย (Ginkgo biloba) และอาร์ททิอิน (arctiin) จะช่วยทำให้เกิดการสร้างเนื้อเยื่อคอลลาเจนใหม่ อันมีส่วนสำคัญในการป้องกันการเกิดริ้วรอยเหี่ยวย่น เพิ่มความกระชับ เต่งตึงให้กับผิวได้ค่ะ
คอลลาเจนเป็นเนื้อเยื่อเกี่ยวพัน (Connective tissue) ที่พบได้ถึง 80% ในชั้นผิว โดยคอลลาเจนเป็นโปรตีนที่จับตัวกัน เป็นโครงข่ายอยู่ใต้ชั้นผิว จึงช่วยรักษาโครงสร้างของชั้นผิว และทำให้ผิวกระชับเต่งตึง การเสื่อมสภาพของผิวตามธรรมชาติ และการได้รับรังสียูวี ซึ่งก่อให้เกิดการทำลายของเส้นใยคอลลาเจน ทำให้ผิวหย่อนคล้อย และขาดความกระชับ เกิดรอยเหี่ยวย่น
ดังนั้น สารประกอบที่มีฤทธิ์สำคัญดัง เช่น กรดเออร์โซลิก (ursolic acid) สารสกัดจากแป๊ะก๊วย (Ginkgo biloba) และอาร์ททิอิน (arctiin) จะช่วยทำให้เกิดการสร้างเนื้อเยื่อคอลลาเจนใหม่ อันมีส่วนสำคัญในการป้องกันการเกิดริ้วรอยเหี่ยวย่น เพิ่มความกระชับ เต่งตึงให้กับผิวได้ค่ะ
วิธีการรักษาหน้าแพ้เครื่องสำอาง
1. อันดับแรก ถ้าหน้าเราเป็นผื่นแสบ ๆ คัน ๆ หมอจะแจกยากทาแก้ผื่นให้ก่อน ซึ่งก็ผสมเสตรียรอยด์แน่นอนนะค่ะ แต่หมอจะกำหนดช่วงเวลาให้เราทา เ่ช่น ครั้งแรก ทา 3 อาทิตย์ แล้วหยุด ถ้าหยุดแล้วผื่นยังไม่หายก็อาจจะทาต่ออีก 10 วัน เฉพาะตอนเย็นประมาณนี้่ค่ะ ห้ามทาเองโดยพละการ
2.หายจากอาการคันแล้ว หมอก็จะจัดการกับสิวอักเสบ ถ้าผุดขึ้นไม่หยุด ก็จะมีตัวแต้มตุ้มอักเสบให้ แต้มม้นไปยังนั้น แล้วก็จะมีพวกเจลคุมความมันแรก ๆ ทาแค่ที่แก้ม เพื่อไม่ให้สิวขึ้นอีก
3.สิวอักเสบหายแล้ว หมอก็จะจัดการสิวอุดตัน ตามใบหน้าค่ะ โดยให้เป็นเจล BP อะไรนี่แหละ ไว้ทาก่อนล้างหน้า มันจะช่วยสลายสิวอุดตัน ทำให้สิวอักเสบยุบด้วยนะบางที ทาไปเรื่อย ๆ ค่ะ สิวอุดตันค่อยๆ หลุดไป
4.สิวอุดตันออกหมดแล้ว หมอก็จะให้ทาเจล เน้นกระชับรูขุมขน แล้วก็ ลดความมัน พร้อม ๆ กับ เจลลดรอยดำจากสิว ทาไปเรื่อย ๆ ค่ะ หนังหน้าจะค่อย ๆ ดีเองเรื่อยๆๆ
5.สิวหายหมดแล้วทุกชนิด รอยดำหมดแล้ว เกลี้ยงใสเลยจริง ๆ ค่ะตอนที่รักษา เกือบๆ 5-6 เดือน ไม่น่าเชื่อ หายเร็วกว่าที่คิดไว้ หมอก็จะนัดให้ทำเลเซอร์ค่ะ
การดูแลผิวทำได้หลายวิธีค่ะ
วิธีที่ 1 ต้องใช้ครีมกันแดดเป็นประจำ
เพื่อปกป้องผิวจากรังสี UV ของแสงแดด แสงไฟ UVB จะส่งผลในเรื่องของการผลิตเม็ดสีผิว ทำให้ผิวหมองคล้ำ จุดด่างดำ ผิวไหม้เกรียม UVA จะส่งผลโดยตรงกับคอลลาเจนใต้ผิวหนัง ทำให้ผิวหย่อนคล้อย ไม่ตึงกระชับ และริ้วรอยก่อนวัย
วิธีที่ 2 ใช้ผลิตภัณฑ์ไวท์เทนนิ่ง โลชั่น ต่างๆค่ะ
วิธีที่ 3 การใช้ใยขัดตัวตอนอาบน้ำ รวมถึงสครับผิวประจำ จะช่วยในการผลัดเซลล์ผิวเก่าออกได้เร็วขึ้น กระตุ้นการสร้างเซลล์ผิวใหม่ให้ดูสดใส
ตาคล้ำเหมือนแพนด้าอย่างรุนแรง
ดวงตาดำคล้ำเกิดได้จากหลายสาเหตุ ที่คลินิกของเรามี EYE CREAM นะคะ ใช้ทาบริเวณรอบดวงตา Liposome ซึมไว ดวงตาดูอ่อนเยาว์ ลดเลือนริ้วรอย ดำคล้ำรอบดวงตาค่ะ
การเปลี่ยนครีมบ่อย ๆ
การเปลี่ยนครีมบำรุงผิวหน้ากระทันหัน โดยไม่พักผิวหน้า หรือการหยุดใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีสารต้องห้ามทันทีเพื่อเปลี่ยนครีม จะทำให้ผิวหน้าไม่สามารถปรับสภาพได้ จึงเกิดอาการต่างๆ ไม่ว่าจะสิวเม็ดอักเสบใหญ่ หรือแดงทั่วใบหน้าได้นะคะ ยังไงก่อนการเปลี่ยนครีมควรพักหน้า หรือใช้เจลปรับสภาพผิวหน้าควบคู่ไปด้วยก่อนนะคะ หรืออาจจะใช้ว่านหางจรเข้ ทารักษาควบคู่ได้ค่ะ
“ว่านหางจรเข้ ” มีคุณสมบัติในการช่วยบำรุงผิวพรรณ ช่วยให้ผิวนุ่มชุ่มชื้น รักษาแผลอักเสบ ต้านเชื้อแบคทีเรีย ป้องกันฝ้า ลบจุดด่างดำได้ด้วยค่ะ การเปลี่ยนครีมเปลี่ยนได้แต่ต้องพักหน้าก่อนนะคะ
ผิวแห้งแต่เป็นสิว
สาเหตุการเกิดสิวของคนผิวแห้งนั้นไม่ได้แตกต่างจากคนผิวมันเลย ก็มีทั้งปัจจัยภายใน เช่น เรื่องอาหารการกิน การพักผ่อนไม่เพียงพอ ความเครียด การขับถ่าย หรือจะเป็นปัจจัยภายนอก เช่น เครื่องสำอางค์ที่ใช้ สภาพแวดล้อม แบคทีเรีย P.Acne แต่จุดที่คนผิวแห้งต่างจากคนผิวมันนั้นก็คือ คนผิวแห้งนั้นจะมีรูขุมขนที่เล็กกว่าคนผิวมัน ซึ่งการเกิดสิวนั้นก็เกิดจากการอุดตันเหมือนคนผิมมันเลย แต่มันอุดตันอยู่ในรูขุมขนที่เล็กกว่า ก็เกิดเป็นสิวเม็ดเล็กๆขึ้นมา อีกทั้งการที่หน้าขาดน้ำมันมาหล่อเลี้ยงก็ทำให้ผิวเกิดความผิดปกติในการผลัดเซลผิว ทำให้ผิวที่ตายแล้วไม่ถูกกำจัดออกไป จากนั้นก็เริ่มทับถมสะสมไปเรื่อยๆ สุดท้ายหน้าก็อุดตันเป็นสิว
แนะนำว่าให้ควรทำความสะอาดใบหน้าอย่างถูกวิธีและบำรุงผิวบนใบหน้าอย่างถูกวิธีเหมือนกันค่ะ
การดูแลผิวหน้าให้ขาวใสด้วยวิธีการบำรุงค่ะ KC Beauty cream ครีมบำรุงที่ตอบทุกโจทย์ของคุณได้ค่ะ และวิธีการดูแลผิวหน้าใสด้วยโยเกิร์ตมาฝากค่ะ
1.ใช้โยเกิร์ต รสธรรมชาติ เท่านั้น !
2.ล้างหน้าให้สะอาด แล้วเช็ดให้แห้ง
3.จากนั้นก็ใช้ “โยเกิร์ต”พอกที่หน้า (บางๆ)
4.แล้วทิ้งไว้ให้แห้งติดกับหน้าเลย
5.จากนั้นก็ใช้นิ้วขัดโยเกิร์ตที่หน้า ขัดจนรู้สึกว่าเจ็บหน้าแล้วอ่ะ ก็พอได้
6.จากนั้นก็ล้างด้วยน้ำเปล่า แล้วเช็ดให้แห้ง
7.จากนั้นคุณจะรู้สึกว่าหน้าดีขึ้น จากนั้นก็ใช้ครีมรสน้ำนม(เท่านั้น)ทาที่หน้าเราแล้วห้ามทาแป้งนะ ทิ้งไว้ค่ะ แค่นี้ใบหน้าก็สวยใสได้ค่ะ
การดูแลผิวหน้าให้ขาวใสด้วยวิธีการบำรุงค่ะ KC Beauty cream ครีมบำรุงที่ตอบทุกโจทย์ของคุณได้ค่ะ และวิธีการดูแลผิวหน้าใสด้วยโยเกิร์ตมาฝากค่ะ
1.ใช้โยเกิร์ต รสธรรมชาติ เท่านั้น !
2.ล้างหน้าให้สะอาด แล้วเช็ดให้แห้ง
3.จากนั้นก็ใช้ “โยเกิร์ต”พอกที่หน้า (บางๆ)
4.แล้วทิ้งไว้ให้แห้งติดกับหน้าเลย
5.จากนั้นก็ใช้นิ้วขัดโยเกิร์ตที่หน้า ขัดจนรู้สึกว่าเจ็บหน้าแล้วอ่ะ ก็พอได้
6.จากนั้นก็ล้างด้วยน้ำเปล่า แล้วเช็ดให้แห้ง
7.จากนั้นคุณจะรู้สึกว่าหน้าดีขึ้น จากนั้นก็ใช้ครีมรสน้ำนม(เท่านั้น)ทาที่หน้าเราแล้วห้ามทาแป้งนะ ทิ้งไว้ค่ะ แค่นี้ใบหน้าก็สวยใสได้ค่ะ
คลินิกขอนแก่นการแพทยกับการลดเลือนริ้วรอยและจุดด่างดำ แผลเป็นที่เกิดจากสิว ฝ้า กระ ที่เกิดจากแสงแดด รักษาด้วยยาที่ต้องรัปประทานและครีมแต้มค่ะ นอกจากนี้ยังสามารถใช้วิธีธรมชาติควบคู่ไปด้วยค่ะ
สำหรับสาว ๆ คนไหนที่มีปัญหาผิวหนังเป็นฝ้า เป็นรอยด่าง ๆ ดำ ๆ ราวกับว่ามีตำหนิประทับอยู่บนใบหน้า การรักษาฝ้าเมื่อก่อนใช้วิธีจัดการทำลายเม็ดสีที่ถูกสร้างขึ้นมา ด้วยวิธีขูดลอกผิวบริเวณที่มีเม็ดสี ถ้าขูดลอกได้ดีก็ไม่เป็นแผลเป็น วิธีรักษาฝ้าแบบไม่ต้องหาครีมและลงคอร์สแพง ๆ ให้ยุ่งยาก เพียงใช้วัตถุดิบจากธรรมชาติไม่กี่ชนิด แค่นี้ก็ช่วยขจัดปัญหาฝ้ากวนใจ เตรียมเผยผิวหน้าขาวกระจ่างใสได้ค่ะ
หัวไชเท้า เพียงนำหัวไชเท้ามาล้างให้สะอาด แล้วปอกเปลือกออกให้หมด จากนั้นจึงนำไปหั่นเป็นชิ้นเล็ก ๆ แล้วปั่นพอละเอียด (อาจบีบน้ำมะนาวผสมลงไปนิดหน่อย) นำมาพอกไว้ให้ทั่วหน้าหรือบริเวณที่เป็นฝ้าประมาณ 15 นาที รับรองว่าทำเป็นประจำฝ้าหายเกลี้ยง ! ว้าว ๆ ..เพิ่งจะรู้ว่าหัวไชเท้านอกจากอร่อยแล้ว ยังช่วยให้หน้าสวยได้ด้วยนะเนี่ย !
1.ว่านหางจระเข้ เพราะในว่านหางจระเข้มีสรรพคุณทางยาที่ช่วยลบเลือนริ้วรอย จุดด่างดำได้เป็นอย่างดี ทั้งยังมีกรดอ่อน ๆ ช่วยลดความมันบนใบหน้า สำหรับวิธีการรักษาฝ้าด้วยว่านหางจระเข้ก็ทำได้ง่าย ๆ เพียงนำเนื้อวุ้นในว่านหางจระเข้มาทาบริเวณใบหน้าวันละ 2 ครั้ง ทำต่อเนื่องกัน 1-2 เดือน จะสังเกตได้ว่ารอยฝ้า รอยดำต่าง ๆ จะดูจางอย่างเห็นได้ชัด
2.ใบบัวบก จากการวิจัยพบว่าใบบัวบกนั้นมีสรรพคุณรักษาอาการของโรคผิวหนัง โดยเฉพาะกระ ฝ้าและสิว ไม่ว่าจะคั้นน้ำดื่มเย็น ๆ เป็นประจำหรือนำมาปั่นแล้วนำน้ำใบบัวบกมาเช็ดแทนโทนเนอร์ก่อนนอนทุกวัน เท่านี้บรรดารอยฝ้าต่าง ๆ เตรียมย้ายบ้านหนี เหลือไว้แต่หน้าขาวเนียนสดใส
3.น้ำแอปเปิลไซเดอร์ ใครจะรู้ว่าน้ำส้มสายชูจากผลแอปเปิลจะมีประโยชน์ในด้านการดูแลผิวได้ตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า เพราะในน้ำส้มสายชูมีฤทธิ์เป็นกรด จึงช่วยทำให้ผิวดูกระจ่างใส เนียนนุ่มขึ้นได้ ด้วยการน้ำแอปเปิลไซเดอร์มาผสมกับน้ำเปล่าเล็กน้อย แล้วใช้สำลีเช็ดให้ทั่วใบหน้า รอจนแห้งแล้วล้างออก
4.ไข่ขาว เพียงแยกไข่ขาวดิบออกจากไข่แดง แล้วนำไข่ขาวบริเวณรอบ ๆ ไข่แดงมาทาบางให้ทั่วบริเวณที่เป็นฝ้า (อาจทาทั่วหน้าเพื่อช่วยลอกสิวเสี้ยนไปในตัว) ทิ้งไว้ประมาณ 5-10 นาที ทำเป็นประจำทุกวัน ไข่ขาวจะช่วยดูดซับรอยฝ้าและสิ่งสกปรกให้หมดไปจากใบหน้า
อยากจะมีใบหน้าที่ขาวต้องเริ่มจากการดูแลใบหน้าให้ดีก่อนนะคะ เช่นหลีกเลี่ยงเเสงแดด UV ต่าง ๆ แนะนำว่าให้ใช้ครีมกันแดด SPF60 PA+++ ของคลินิก และใช้ผลิตภัณฑ์ Wink Wink Cream หรือ Expert White Cream เพื่อช่วยให้ใบหน้าขาวใสค่ะ
ถ้าหากคุณสาวๆ ปล่อยตัวเลยตามเลยไม่สนใจที่จะดูแลรักษาผิวหน้าของตัวเองให้ถูกวิธีแล้วล่ะก็ เพียงในเวลาไม่นานนัก คุณสาวๆ ก็เตรียมตัวโบกมือลาใบหน้าที่เคยขาวใสไปได้เลย สำหรับในวันนี้ คุณสาวๆ ที่ไม่อยากให้หน้าขาวเนียนกลายเป็นอดีต ขอแนะนำให้ควรปฏิบัติตัวตามคำแนะนำของแพทย์ค่ะ
หน้าใสด้วยตนเอง
ไม่ควรนอนดึกเกิน 4 ทุ่ม ควรนอนระหว่าง 3 ทุ่มถึงตี 4 และนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพออย่างน้อยวันละ 8 ชั่วโมง เพราะการนอนดึกจะทำให้ระบบต่างๆในร่างกายเสื่อมโทรม ทำให้มีอายุสั้นลง ระบบทางเดินอาหาร ระบบทางเดินหายใจ และระบบภูมิคุ้มกันโรคทำงานไม่เป็นปกติ
ออกกำลังกายเป็นประจำทุกวัน หรือวันเว้นวัน อย่างน้อยวันละ 30 นาที ทำให้สุขภาพผิวดี ดูเปล่งปลั่งมีน้ำมีนวล ผุดผ่องสดใส แถมยังทำให้มีสุขภาพร่างกายแข็งแรงอีกด้วย
ดื่มน้ำสะอาดอย่างน้อยวันละ 8 แก้ว เพราะจะช่วยขจัดของเสียออกจากร่างกาย ทำให้หน้าดูสดใส น้ำยังช่วยทำให้กล้ามเนื้อของเรามีความชุ่มชื้นไม่เหี่ยวย่นด้วย ซึ่งถ้าหากร่างกายมีน้ำเพียงพอก็สามารถกำจัดของเสียเหล่านี้ออกมาได้มาก
รับประทานผักผลไม้สดเป็นประจำ เช่น ส้ม ฝรั่ง กล้วย กีวี่ มะนาว มะเขือเทศ เป็นต้น ซึ่งจะทำให้ร่างกายมีสุขภาพแข็งแรงต้านทานโรคต่างๆ ทำให้ผิวสวย ดูสดใสขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ
หลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารมันๆทุกชนิด ซึ่งจะทำให้หน้ามันและอาจเกิดสิวตามมาได้ หรือถ้าอดใจไม่ได้หลังจากกินแล้วควรดื่มน้ำตามไปมากๆ
ตอนมีประจำเดือน ควรหลีกเลี่ยงอาหารมันเพราะอาจจะทำให้หน้าของคุณสาวๆ ยิ่งมันขึ้นไปใหญ่ ซึ่งอาจทำให้เกิดสิวอุดตันได้
ทำจิตใจให้ร่าเริง สดชื่น แจ่มใส มองโลกในแง่ดี จะช่วยลดความเครียดซึ่งเป็นสาเหตุของการเกิดสิวได้ และยังช่วยชะลอวัยได้ด้วย
ไม่ดื่มเหล้าหรือสูบบุหรี่ เพราะจะทำให้ผิวเหี่ยวย่น แก่ก่อนวัยอัยควร หน้าตาไม่สดใส และมีสิวอุดตันตามมา ดังนั้นควรหลีกเลี่ยง เพราะเหล้าและบุหรี่มีผลเสียหลายต่อสุขภาพในร่างกายของเรามาก
ควรหลีกเลี่ยงการเผชิญกับแสงแดดจัดๆ เพราะแสงแดดจะทำให้หน้าเราหมองคล้ำได้ เมื่อออกกลางแจ้งควรสวมแว่นตาและกางร่ม (ร่มกัน UV ก็มีนะ) และทาครีมกันแดดด้วย
หลีกเลี่ยงมลภาวะเป็นพิษต่างๆ โดยไม่จำเป็น
เวลาว่างควรทำทรีทเม้นท์สักอาทิตย์ละครั้งเป็นอย่างน้อย
ไม่ควรเข้านอนโดยที่ยังไม่ได้ล้างหน้า ก่อนล้างหน้าควรเช็ดทำความสะอาดเครื่องสำอางก่อนทุกครั้ง และควรล้างหน้าวันละ 2 ครั้ง และไม่เกิน 3 ครั้งเพราะจะทำให้ผิวขาดความชุ่มชื้นได้
เมื่อล้างหน้าเสร็จควรใช้โทนเนอร์เช็ดทำความสะอาดอีกครั้ง เพื่อให้แน่ใจว่าผิวคุณสะอาดปราศจากสารตกค้างแล้วจริงๆ
หลังจากล้างหน้าทุกครั้ง ควรทาครีมบำรุงผิว เพื่อทดแทนความชุ่มชื่นที่เสียไปจากการล้างหน้า เพื่อป้องกันริ้วรอยและรอย
ควรจะแยกผ้าเช็ดหน้า กับผ้าเช็ดตัว ผ้าเช็ดผมออกจากกัน ใช้อย่างละผืน และควรซักเป็นประจำทุกสัปดาห์ เพื่อป้องกันสิ่งสกปรก
ควรทำความสะอาดแปรงแต่งหน้าเป็นประจำ สัปดาห์ละครั้ง เพื่อป้องกันสิ่งสกปรกและเชื้อแบคทีเรียที่เป็นสาเหตุของสิวอุดตัน
สำหรับคนผิวมัน ถ้ารู้สึกว่าหน้ามันในระหว่างวัน ควรใช้กระดาษซับมันแทนการล้างหน้าบ่อยๆ